การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาการยอมรับการใช้รถไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ของพนักงานและกลุ่มผู้ใช้บริการจากศูนย์จำหน่ายรถแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ 2.เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการยอมรับการใช้รถไฟฟ้าของการยอมรับการใช้รถไฟฟ้าของพนักงานและกลุ่มผู้ใช้บริการจากศูนย์จำหน่ายรถแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) โดยเก็บ ข้อมูลจากแบบสอบถามจำนวน 188 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด และ ค่าฐานนิยม ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติการทดสอบแบบ สถิติไควสแควร์ และค่าสัมประสิทธิ์การกระจาย

ผลการวิจัยโดยสรุป พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อยู่ในช่วงวัย Gen Y มีระดับการศึกษาอยู่ในช่วงปริญญาตรี ส่วนใหญ่อาศัยอยู่เขตเมือง ลักษณะครอบครัวเป็นลักษณะครอบครัว 2 วัย คือ (พ่อ แม่ และลูก) และมีสถานภาพทางสังคมและเศรษฐกิจอยู่ในระดับปานกลางและจากผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า เพศ ไม่มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ แต่พบว่า วัย ระดับการศึกษา เขตที่อยู่อาศัย ลักษณะครัวเรือน สถานภาพทางเศรษฐกิจ มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้

This research aimed to 1 study the acceptance of electric vehicles (EV) use among employees and service users of car dealers in Samut Prakan Province, and 2. study the factors related to the acceptance of electric vehicles use among employees and service users of car dealers in Samut Prakan Province using quantitative analysis data were collected from a questionnaire of 188 people. The statistics used for analysis were percentage, mean, standard deviation, minimum, maximum, and mode. Hypotheses were tested using the Chi-square test and the coefficient of distribution. The results of the research in summary found that most of the respondents were female They are in the Gen Y group, have a bachelor's degree, mostly live in urban areas, have two-generation families (father, mother, and child), and have a middle social and economic status. From the hypothesis testing results, it was found that gender was not significantly related at the 0.05 level, which is not consistent with the research hypothesis. However, it was found that age, education level, residence, household characteristics, and economic status were significantly related at the 0.05 level, which is consistent with the research hypothesis.